Separation Anxiety (ความกังวลในการแยกจาก)
- Korat Montessori
- Jun 12, 2017
- 1 min read
Tips for Saying Goodbye

เคล็ดลับการบอกลาลูก
เด็กแต่ละคนมีลักษณะเฉพาะ และมีปฏิกิริยาต่อการแยกจากผู้ปกครองไม่เหมือนกัน ผู้ปกครองควรคำนึงถึงสิ่งที่ท่านแสดงออกต่อลูก เพราะทุกการแสดงออก และความรู้สึกส่งผลต่อการสร้างความพร้อมของเขา ถ้าพ่อแม่บอกลาลูกด้วยปฏิกิริยาเชิงบวก เด็กจะสื่อได้ถึงความรู้สึกนั้นได้ ลูกก็จะรู้สึกคลายกังวลลงได้เร็วกว่า เตรียมความพร้อมให้ลูกล่วงหน้า บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น เช่น “วันนี้วันไปโรงเรียน !” สร้างกิจวัตรของการบอกลา เด็กๆมักชอบสิ่งที่คาดการณ์ได้ ลองพูดคำเดิมซ้ำๆกันทุกวันเมื่อส่งลูกไปโรงเรียน เช่น “ ขอให้สนุกกับเพื่อนๆนะลูก” “แม่รักหนูมาก เดี๋ยวตอนเย็นคุณแม่มารับ บ๊ายบายจ๊ะ” เมื่อเด็กๆเห็นคุณพ่อคุณแม่พูดลาในทางบวก และเค้าก็พบว่า คุณแม่มารับเขาทุกวันตามที่ได้พูดสัญญาไว้ ความไว้เนื้อเชื่อใจของเด็กได้ถูกสร้างขึ้นทุกวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นจะช่วยให้เด็กรู้สึกคลายความกังวลที่กลัวจะถูกทอดทิ้ง ทำให้เค้าค่อยๆผ่อนคลายและสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่และและมีความรู้สึกดีต่อการมาโรงเรียน
มันยังคงเป็นเรื่องที่ทำใจค่อนข้างยากในฐานะพ่อแม่ที่ต้องเห็นลูกร้องไห้ขณะการแยกจาก กรุณาไม่หันหลังกลับมาอีกเมื่อสิ้นสุดการลาจาก มันเป็นปฎิกิริยาตามธรรมชาติของพ่อแม่หลายๆท่าน ที่อยากหันกลับไปโอ๋ลูกอีก แต่ตามความเป็นจริงแล้วมันส่งผลทำให้การแยกจากครั้งที่สอง ยิ่งมีความยากขึ้นไปอีก
หลังจากการแยกจาก หากคุณพ่อคุณยังคงมีความกังวล ก็สามารถโทร หรือไลน์ถามคุณครูว่าลูกของท่านเป็นอย่างไรได้ ส่วนใหญ่เด็กจะปรับตัวได้ดีหลังจากพ่อแม่กลับไปแล้ว และความกังวลต่อการแยกจากผู้ปกครองจะค่อยๆลดลง เพราะลูกจะเริ่มเข้าใจการแยกจากแบบชั่วคราวไม่ใช่การทอดทิ้งแต่อย่างใด และการทำซ้ำทุกวันเช่นนี้ เขาจะเริ่มเข้าใจตารางกิจวัตรประจำวันใหม่
ถึงอย่างไรก็ตาม บางครั้งเราอาจจะเห็นเด็กที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยร้องไห้ในอาทิตย์ที่หนึ่งหรือสองของการมาโรงเรียน แต่อยู่ดีๆมาวันนึงก็เกิดร้องไห้ขึ้นมา ซึ่งนั่นเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ การสร้างความต่อเนื่องในการดูแลจะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก เด็กจะรู้สึกว่าอย่างไรก็ตาม จะมีคนดูแลเขาในยามที่แยกจากพ่อแม่ เขาไม่ได้ถูกทอดทิ้ง กระบวนการนี้เป็นการสร้างความเชื่อใจและสภาพแวดล้อมที่คาดการณ์ได้
ความกังวลที่ต้องแยกจากกับลูกไม่ได้เกิดแต่กับเด็กเท่านั้น
ตัวผู้ปกครองเองก็จะมีความรู้สึกกังวลเช่นกัน เฉกเช่นนี้การแยกกับลูกครั้งแรกทำให้ผู้ปกครองเกิดความรู้สึกกลัว, กังวล, เศร้า, อารมณเสีย แต่ประสบการณ์ของการมาโรงเรียนในครั้งแรกนั้นมีความสำคัญมากและมีอิทธิพลกับเด็กมากที่สุด ผู้ปกครองจึงต้องเข้มแข็งและเตรียมตัวจัดการความรู้สึกเหล่านั้นให้ได้ ยิ่งผู้ปกครองแสดงความกังวลมากเท่าไหร่ ก็จะเป็นตัวขัดขวางพัฒนาการการเติบโตเและความสามารถในการเรียนการเรียนรู้ของเด็ก
สัญญาณ ที่บอกได้ว่าเด็กมีความกังวลใจในการแยกจาก
(SIGN OF SEPARATION ANXIETY)
เด็กอาจ…...
พูดว่าไม่อยากไปโรงเรียน
ต่อต้านการตื่นเช้า
ร้องไห้เมื่อพ่อแม่ไปแล้ว
เดินเต็ดเตร่แทนที่จะหาอะไรทำ
เลี่ยงคุณครู
ดูดนิ้วโป้งหรือฉี่รดกางเกง
เล่นตัวเวลาพ่อแม่มารับ เช่น บอกว่าอยากเล่นหรืออยู่ต่อ (งอนที่ต้องรอมาทั้งวัน อยากให้พ่อแม่เป็นฝ่ายรอตัวเองบ้าง)
บ่นหรืออ้างว่ากลัวเด็กคนอื่นแกล้ง
โกรธพ่อแม่หรือพี่น้องด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
อ้างว่าปวดท้องก่อนไปโรงเรียน
สัญญาณ ที่บอกได้ว่าพ่อแม่มีความกังวลใจในการแยกจาก
พ่อแม่อาจ…...
หาเหตุผลในการไปโรงเรียนสาย
อธิบายให้ครูฟังว่าลูกเป็นยังไง
รู้สึกเขม่นครู
รู้สึกอายหรือโกรธเวลาลูกร้องไห้
แยกจากลูกโดยไม่บอกลา
บอกลามากกว่าหนึ่งครั้ง ต่อการแยกจาก
รู้สึกหงุดหงิดที่ไม่รู้ว่าลูกทำอะไรบ้างที่โรงเรียน
ถามครูว่าลูกทำอะไรในแต่ละวัน
โกรธคู่สมรส, ลูก, ตัวเอง ด้วยเรื่องเล็กน้อย
อยู่กับลูกนานมากเกินในช่วงวันแรกๆ
ต้องทำอย่างไร (What to do)
เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม รู้ตัวล่วงหน้าว่า ความรู้สึกและสัญญาณที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ พ่อแม่ทุกคนก็ได้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้มาแล้วเช่นกัน ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง ตระหนักรู้ว่าการแยกจากมันยาก และหากว่าคุณได้ตัดสินใจแล้วว่า ลูกของคุณพร้อมที่จะไปโรงเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่คุณไว้ใจและเชื่อมั่น เคารพในการตัดสินใจของคุณ หลังจากนั้นขอให้คุณผ่อนคลาย ทำใจให้สบาย แล้วคุณจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างง่ายดาย
บอกให้ลูกของคุณรู้ว่ามันไม่เป็นไร ถึงแม้เขาจะมีความรู้สึกเศร้าเสียใจ กลัว หรือโกรธ และยังคงต้องไปโรงเรียน นี่เป็นการวางรากฐานที่จะช่วยลูกของคุณให้เข้าใจว่า ถึงแม้ว่ามีประสบการณ์ใหม่ๆที่เข้ามาในชีวิต ส่งผลทำให้เขามีความรู้สึกในทางบวกหรือลบ แต่เขายังมีพ่อแม่ที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจเขาอยู่เสมอ
เวลาอยู่บ้าน ใช้เวลาอย่างมีคุณภาพกับลูก พูดคุยทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัว
หากมีบทสนทนาเกี่ยวกับความกังวลใจของการมาโรงเรียน หรือการปรึกษาหารือระหว่างผู้ปกครองเองที่บ้าน หรือระหว่างผู้ปกครองกับคุณครู แนะนำว่าควรกระทำในที่ลับตาเด็ก หรือแน่ใจว่าเด็กจะไม่ได้ยินบทสนทนาที่เป็นเชิงลบ อย่าคิดว่าลูกจะไม่เข้าใจ เขาเข้าใจและรับรู้ถึงความรู้สึกในทางลบได้ เด็กไม่สามารถมีความรู้สึกบวกในการมาโรงเรียนได้หากเขารู้ว่าพ่อแม่เองก็ยังคิดลบ เด็กๆต้องการความเชื่อใจของผู้ใหญ่ทุกๆคนที่อยู่รอบๆตัวเขา
Comentários